วันพุธที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2556
ต้มยำกุ้ง
ต้มยำกุ้งเป็นอาหารจานโปรดของคนไทยมานาน จัดเป็นอาหารประจำชาติที่ปัจจุบันได้รับความนิยมไปถึงนานาประเทศเสน่ห์ของต้นยำกุ้งคือ ในแง่มุมใหม่ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ต้มยำกุ้งเป็นอาหารที่มีไขมันน้อย ให้พลังงานต่ำมาก และให้ประโยชน์จากสมุนไพรที่มาใช้ในการประกอบอาหาร หากมีการควบคุมเรื่องปริมาณของเครื่องปรุงรสให้พอเหมาะจะถือได้ว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพประเภทหนึ่งเลยทีเดียว
วิธีทำ
1. ล้างกุ้งให้สะอาดตัดเท้าทิ้งให้หมดแล้วผ่าครึ่ง ใส่ถ้วยพักไว้ (หากไม่มีกุ้งตัวใหญ่ใช้ตัวเล็กได้แต่เวลาใช้ตัวเล็กให้แกะเปลือกเด็ดหัวไว้หางผ่าหลังดึงเส้นดำออกส่วนหัวกุ้งอย่าเพึ่งทิ้งให้เก็บไว้ใส่น้ำซุปเพื่อให้น้ำซุปหวานแล้วค่อยตักออกทิ้งทีหลัง )
2. ผสม พริกขี้หนูป่นทอดกับกระเทียม น้ำมันพริกขี้หนูป่นทอดกระเทียม พริกเผา น้ำมันพริกเผา กระทิ และนมสด เข้าด้วยกันคนจนพริกเผาไม่เกาะกันเป็นก้อน พักไว้
3. ตั้งหม้อใส่น้ำซุปลงไปด้วยไฟแรงจนร้อนใส่ตะไคร้ ข่า หอมแดง กระเทียม ลงไปต้มพอน้ำเดือดอีกครั้งลดไฟลงเหลือปานกลางต้มต่อไปประมาณ 15 นาที ตักเครื่องที่ใส่ลงไปออกให้เหลือไว้นิดหน่อนเพื่อความสวยงาม หากไม่ตักออกน้ำซุปจะรกดูไม่น่ารับประทาน
4. ใส่เกลือ ซีอิ้วขาว น้ำตาลลงไปในซุป คนพอน้ำตาลละลาย เร่งไฟแรงใส่กุ้งลงไป พอกุ้งเริ่มสุกใส่เห็ดฟางลงไปพอน้ำเดือดอีกครั้งลดไฟลงเหลือปานกลาง ค่อยๆเทส่วนผสมกระทิในขั้นตอนที่ 2 ลงไป ทีละน้อยจนหมดพอน้ำเดือดอีกครั้งใส่ พริกขี้หนูทุบและน้ำมะนาวลงไป คนให้เข้ากัน พอมีมันสีแดงลอยหน้าขึ้นมาให้ลดไฟลงเหลืออ่อนต้มต่อไปอีกประมาณ 5 นาที ชิมรส ปรุงตามชอบให้เปรี้ยวนำเค็มและหวานตาม หากไม่เผ็ดอาจเพิ่ม พริกขี้หนูป่นทอดกับกระเทียมหรือพริกขี้หนูแดงทุบก็ได้ีใส่ผักชีซอยลงไป ปิดไฟ
5. ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชีเด็ดใบ เสิร์ฟร้อนๆ หรืออาจเสิร์ฟเป็นหม้อไฟก็ได้
ต้มยำกุ้งเป็นเมนูอาหารไทยที่ทั่วโลกรู้จักกันดีใครที่ได้มาเที่ยวที่เมืองไทยต้องลองทานกันทุกคน ด้วยรสชาติที่เผ็ดร้อนเข้มข้นและกลมกล่อมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของต้มยำกุ้งนี้ทำให้ใครๆหลายคนติดใจจนกลับไปพูดกันปากต่อปากว่ามาประเทศไทยต้องทานต้มยำกุ้ง ต้มยำกุ้งบ้นเรามี 2 ชนิดคือต้มยำกุ้งน้ำข้นและน้ำใส แต่ในวันนี้เราจะมาทำต้มยำกุ้งน้ำข้นกันค่ะ ซึ่งเคล็ดลับความอร่อยของสูตรนี้คือ พริกขี้หนูป่นทอดกับกระเทียม ดูสูตรที่ น้ำพริกแกง/ซอสต่างๆ - พริกป่นทอดกระเทียม เพราะจะทำให้น้ำซุปเผ็ดหอมค่ะ
ยำหอยแคลง
ยำหอยแครง หอยแครงสดๆ นอกจากจะนำไปลวก ย่าง แล้วจิ้มน้ำจิ้มรสจัดทานเปล่าๆ หรือทานกับเครื่องดื่มแล้ว ยังนำมาทำยำได้อร่อยอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเลือดสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือดจาง เลือดน้อย หอยแครงนี้จะช่วยได้ โดยเฉพาะจะเป็นประโยชน์มากที่สุดกับคุณแม่ทั้งหลายที่กำลังตั้งครรภ์อยู่
ส่วนผสม
1.หอยแครงสด 2.หอมแดงซอย
3.พริกขี้หนูซอยละเอียด 4.ใบสาระแหน่
5.ตะไคร้ซอย 6.น้ำปลา
7.น้ำมะนาว 8.มะม่วงดิบหั่นเป็นเส้น
9.ใบสาระแหน่ (สำหรับแต่งหน้าอาหาร)
วิธีทำ
1. ล้างหอยแครงในน้ำสะอาด รอจนกระทั่งฝาหอยเปิด จากนั้นจึงทำความสะอาดภายใน
2. นำหอยแครงที่ล้างสะอาดแล้วไปลวกในน้ำเดือดจนเกือบสุก (อย่าลวกนาน เพราะจะทำให้ไม่อร่อย) จากนั้นจึงนำออกมาสะเ็ด็ดน้ำและปอกเปลือกออกให้เหลือเฉพาะเนื้อหอย
3. ในชามขนาดใหญ่, ใส่เนื้อหอยแครงลวก, พริก, หอมแดง, ตะไคร้ซอย, น้ำปลา, น้ำมะนาว, ใบสาระแหน่ และมะม่วงดิบ คลุกจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี
4. ตักใส่จาน แต่่งหน้าด้วยใบสาระแหน่ และเสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นกับแกล้มของทานเล่นก็ได้
เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ หรือเป็นกับแกล้มของทานเล่นก็ได้
หอยชักตีนลวก
วิธีทำ
1.นำตัวหอยชักตีนสดมาแช่น้ำเค็มที่สะอาด หรือน้ำจืดธรรมดาแต่เติมเกลือลงไปในน้ำเพื่อให้มี รสเค็มเหมือนน้ำทะเล
2.ตำพริกขี้หนูสดใส่ไปในน้ำประมาณ 2-3 ดอก เพื่อให้มีรสเผ็ด หอยจะค่อย ๆ ขยับตัวยื่น "ตีน" และตัวออกมา นอกเปลือก ดินโคลนที่อยู่ในตัวหอยก็จะถูกคายออกมาปะปนกับน้ำ
3.แช่ทิ้งไว้ในที่ที่ไม่มีสิ่งรบกวน ประมาณ 30 นาที
4.แล้วเทน้ำทิ้ง ล้างน้ำและคนหอยหลาย ๆ ครั้งเพื่อให้ เปลือกภายนอกสะอาด
5.เติมน้ำธรรมดาลงไปในภาชนะที่ใส่หอยเพื่อใช้ต้ม พอท่วมตัวหอย นำไปวางบนเตา เมื่อน้ำเริ่มอุ่น และร้อนขึ้น หอยก็จะค่อย ๆ ยื่น "ตีน" ออกมาต้มทิ้งไว้จนตัวหอยสุกมีกลิ่นหอมจึงยกลง เทน้ำทิ้ง
วิธีทำน้ำจิ้ม
1.เอากระเทียม น้ำตาล น้ำปลา พริกขี้หนู เกลือ โขลกเข้าด้วยกัน
2.คั้นมะนาวลงไปตามต้องการ
3.ปรุงรสให้ออกเปรี้ยวหวานตามชอบ
หมึกไข่ต้มหวาน
หมึกต้มหวาน เป็นอาหารพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ต เป็นอาหารประเภทต้มชนิดหนึ่งค่ะ การต้มของเราจะใช้หมึกที่มีไข่และเป็นตัวสีขาวมาทำให้อาหารสุก รสชาติของใบมะขามอ่อน ซึ่งถ้าซดน้ำแล้วจะรู้สึกชุ่มคอมากๆ
ส่วนผสม
1.ปลาหมึกกล้วยที่เป็นหมึกไข่
2.น้ำปลาอย่างดี
3.น้ำตาลมะพร้าว
4.น้ำเปล่า
วิธีทำ
1. นำปลาหมึกมาทำความสะอาดดึงถุงดำออกด้วย จะต้มทั้งตัวหรือจะหั่นเป็นชิ้นพอคำตามใจชอบ
2. เติมน้ำใส่หม้อตั้งไฟให้เดือด
3.ใส่กระเทียม หอมแดง เกลือป่น ซีอิ๊วหวาน น้ำตาลปี๊บ
4.ชิมรสดู รสจะออกหวานนำเค็มเล็กน้อย เมื่อรสได้ตามต้องการแล้ว
5.ใส่ปลาหมึกลงไป อย่าลืมว่าเมื่อใส่ปลาหมึกลงไปแล้วรสชาติจะจืดลงเล็กน้อย ตั้งไฟให้เดือดสักพักจึงยกลงจากเตา
ปลาหมึกที่ใช้เป็นปลาหมึกกล้วยและต้องสดอย่าต้มนานเกินไปจะทำให้เนื้อปลาหมึกเหนียว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)